ฟิลเลอร์

สาวหลาย ๆ คน เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหน้า และผิวกายย้อมอ่อนย้อยคล้อยตามกาลเวลา ถึงกระนั้นแล้ว แม้เราไม่อาจหยุดยั้งการเดินทางของเวลาได้ แต่เราสามารถหยุดยั้งและชะลอการเหี่ยวย่นของผิวจากกาลเวลาได้ หากอยากมีผิวที่ยังกระชับ และอ่อนเยาว์ซึ่ง ฟิลเลอร์ ก็เป็นตัวช่วยที่มีความนิยมในปัจจุบันนี้ โดยฟิลเลอร์จะมีสารที่เติมเต็ม Hyaluionic Acid จะช่วยเติมเต็มให้กับชั้นผิวหนังซึ่งจะช่วยลดริ้วรอย บริเวณต่างๆ ให้กับดูกระชับ อ่อนเยาอีกครั้ง โดยฟิลเลอร์นี้เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ถูกยอมรับจาก FDA ว่าเป็นสารจากธรรมชาติที่มีความปลอดภัยไม่อันตราย แต่ทั้งนี้จำเป็นที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการฉีดให้เหมาะสมและถูกตำแหน่ง



ข้อดีของการทำฟิลเลอร์

  • ฟิลเลอร์ช่วยแก้ไขปัญหานริ้วรอยร่องลึก บริเวณต่างๆ
  • ฟิลเลอร์ช่วยแก้ไขปัญหาการปรับแต่งรูปหน้า
  • ฟิลเลอร์ช่วยบำรุงผิวหน้าให้อ่อนเยาว์ เปล่งปลั่ง
  • ฟิลเลอร์ช่วยแก้ไขปัญหารูขุมขน หลุมสิวบนใบหน้า



ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์

โดยปกติแล้ว ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์จะไม่มีกระบวนการที่มากขั้นตอนแต่อย่างใด ทั้งในรูปแบบของการปรับรูปหน้าให้ตึงกระชับ และลดริ้วรอย จะเป็นการใช้เข็มที่มีฟิลเลอร์ฉีดลงบนผิวในส่วนที่เราต้องการลดริ้วรอย และทำให้ตึงกระชับ ใช้เวลาการฉีดประมาณ 20 นาที หลังฉีดอาจมีอาการเจ็บปวดเล็กน้อย แต่จะหายไปเองในระยะเวลา 1-2 วัน และฟิลเลอร์จะต้องกลับมาฉีดซ้ำในทุก ๆ 6-12 เดือน เนื่องจากฟิลเลอร์ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร ระยะเวลาขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์



ทำฟิลเลอร์บริเวณไหนได้บ้าง

จริง ๆ แล้วสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ทุกจุดเพื่อกระชับผิวหนังในหนังที่เราต้องการ แต่โดยทั่วไปที่นิยมกันจะฉีดฟิลเลอร์บริเวณใบหน้า เพื่อกระชับร่องลึก และริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัย ไม่ว่าจะเป็นใต้ตา ร่องแก้ม ปาก และคาง ทั้งนี้เราสามารถปรึกษาคุณแพทย์ก่อนเข้ารับการทำฟิลเลอร์เพื่อประเมินผลลัพท์ และดูรูปแบบใบหน้าว่าจุดไหนเหมาะจะทำฟิลเลอร์ที่สุด



วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์

  • งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นเวลาขั้นต่ำ 1 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์
  • ควรงดอาหารเสริม หรือวิตามินที่มีผลให้เลือดแข็งตัวทุกชนิด เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เข้าสู่ร่างกายได้ยากขึ้น
  • ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องการอาการฟกช้ำ
  • ควรแจ้งแพทย์ที่ปรึกษาก่อนผ่าตัด หากมีโรคประจำตัว
  • ควรล้างเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดใบหน้าก่อนพบแพทย์



วิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า
    สัมผัส จับ นวด หรือกดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจจะทำให้รูปทรงเคลื่อน หรืออาจจะทำให้ไม่เห็นผลเลยเนื่องจากสารฟิลเลอร์กระจายตัว แต่หากมีอาการระคายเคืองจนอยากจะกดหรือเกาติดต่อกันเป็นระยะเวลา 2-3 วัน ควรปรึกษาแพทย์เพราะอาจเกิดจากอาการแพ้
  • หลีกเลี่ยงการเข้าคลินิกทำหน้าทุกรูปแบบ
    ไม่ควรเข้ารับการเสริมความงามที่เกี่ยวกับหน้าทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นนวดหน้า ขัดหน้า หรือมาส์กหน้า เพราะจะทำให้เกิดการกระทบกระเทือนรุนแรงการบริเวณฟิลเลอร์ที่ฉีดไป ทำให้สารฟิลเลอร์กระจายตัวและไม่เกิดผลลัพท์ยกกระชับหลังฉีด
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นเวลาขั้นต่ำ 1 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์เป็นเวลา 3-7 วัน เพื่อป้องกันการบวมจากแอลกอฮอล์ และป้องกันอันตรายหากดื่มในปริมาณมาก อาจเผลอไปจับหน้าโดยไม่รู้ตัว
  • หลีกเลี่ยงแหล่งความร้อนและแสงแดดจัด
    ไม่ควรนำใบหน้าไปอยู่ในบริเวณที่มีความร้อน เช่นเตาอาหารประเภทต่าง ๆ  หรือร้านหมูปิ้ง ไก่ปิ้งข้างทาง อีกทั้งยังไม่ควรออกแดดจัดเนื่องจากความร้อน จะทำให้สารฟิลเลอร์สลายตัวเร็วในช่วงแรก และหากอยากให้ฟิลเลอร์อยู่ในผิวเราไปนาน ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงให้เป็นนิสัย เพราะนอกจากจะเป็นการป้องกันฟิลเลอร์สลายแล้ว ยังเป็นการดูแลผิวพรรณตัวเองไปในตัวด้วย
  • หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำน้อย
    สารไฮยาลูลอนนั้นจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นกับผิวที่มีความชุ่มชื้น ซึ่งเกิดจากการดื่มน้ำในประมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย

โบท็อก

การทำ โบท็อก ในปัจจุบันได้รับความนิยมมาก ซึ่งการฉีดโบท็อกจะช่วยกระชับกรอบหน้า ช่วยให้กรอบหน้ากลับมาตึง อีกทั้งหากมีการฉีดแถวบริเวณกรามจะช่วยให้ กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลงทำให้หน้าดู V -SHAPE มากขึ้น ทำให้หน้าดูเรียว สวยงาม หลายคนอาจจะคิดว่าการฉีดโบท็อกราคาสูงหรือไม่คุ้มค่า แต่ความจริงแล้วการฉีดโบท็อกเป็นหัตถการที่ราคาไม่แพง มีความปลอดภัยและเห็นผลชัดเจนมากครับ ถ้าเลือกฉีดถูกที่ถูกวิธีก็รับประกันว่าจะได้ผลที่คุ้มค่า ดูจากผลลัพธ์ข้างต้นแล้ว อาจจะมีลักษณะคล้ายฟิลเลอร์ และมีใครหลายคนยังคาใจและลังเลอยู่ว่าฟิลเลอร์และโบท็อกแตกต่างกันอย่างไร ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองอย่างนี้แก้ไขต้นเหตุและให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอยู่พอสมควร



ข้อดีของการทำโบท็อก

  • ปรับหน้าเรียว
  • ลดริ้วรอยหน้าผาก
  • ลดริ้วรอยตีนกา
  • กระชับรูขุมขน
  • ลิฟหน้า
  • ลดโหนกแก้ม
  • ลดปีกจมูก



โบท็อก ต่างจาก ฟิลเลอร์อย่างไร?

การทำโบท็อกนั้น จะเป็นการกระชับกล้ามเนื้อ ลดการหกเกร็งอันเกิดจากพฤติกรรมการแสดงออกทางสีหน้าคน อย่างเช่น ติดนิสัยเลิกคิ้ว ทำคิ้วขมวด หรือทำคางย่นบ่อย ๆ พฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้ใบหน้าช่วงหน้าผากเกิดริ้วรอย การฉีดโบท็อกจะเข้ามาช่วยในจุดนี้ได้ดี หมดปัญหารอยย่นจากหน้าผากแน่นอน นอกจากนี้ โบท็อกยังสามารถใช้ในส่วนอื่น ๆ ของใบหน้าได้อีกด้วย ที่ได้รับความนิยมกันก็คือบริเวณริ้วรอยบนใบหน้า ตีนกา หน้าผาก คาง กราม และกรอบหน้า แต่สำหรับฟิลเลอร์นั้น จะเน้นเติมเต็มบริเวณผิวที่หย่อยคล้อยเนื่องจากกล้ามเนื้อน้อย อยากเช่นใต้ตา ร่องแก้ม หรือหน้าผาก ริมฝีปาก ที่เน้นจะให้ดูโหนกนูนขึ้น ต่างจากโบท็อกที่จะเน้นกระชับโดยเฉพาะ



โบท็อกทำงานกับร่างกายอย่างไร

  • ส่วนที่ถูกดูดซึมเข้าไปเก็บไว้ในเซลล์ประสาท
    เป็นส่วนที่จะออกฤทธิ์ และหากส่วนนี้มีความเข้มข้นสูงก็จะทำให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นครับ การทำงานของโบท็อกจะไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ผิวหนังก็จะตึงขึ้น ไม่เกิดรอยพับ
  • ส่วนที่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด
    ส่วนนี้จะปลิวไปตามกระแสเลือดในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชม. หลังฉีด และถูกขับออกไปโดยไมส่งผลต่อเซลล์อื่นในร่างกายครับ



วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อก

  • งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นเวลาขั้นต่ำ 1 วันก่อนฉีดโบท็อก
  • ควรงดอาหารเสริม หรือวิตามินที่มีผลให้เลือดแข็งตัวทุกชนิดควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด
  • ควรแจ้งแพทย์ที่ปรึกษาก่อนผ่าตัด หากมีโรคประจำตัว
  • ควรล้างเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดใบหน้าก่อนพบแพทย์
  • หากเป็นสตรีมีการตั้งครรภ์ หรือกำลังอยู่ในช่วงให้นมบุตร ไม่ควรฉีด



วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก

  • หลังฉีดโบท็อกควรงดนอนราบ 3-5 ชม.
    หลังฉีดโบท็อกไม่ควรนอนราบ และงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่หน้าเยอะขึ้น ส่งผลให้โบท็อกจะปลิวไปเยอะขึ้นครับ การไหลเวียนของเลือด (Metabolism) เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โบท็อกย่อยสลายไวขึ้น
  • หลีกเลี่ยงแหล่งความร้อนและแสงแดดจัด
    ไม่ควรนำใบหน้าไปอยู่ในบริเวณที่มีความร้อน เช่นเตาอาหารประเภทต่าง ๆ  หรือร้านหมูปิ้ง ไก่ปิ้งข้างทาง อีกทั้งยังไม่ควรออกแดดจัดเนื่องจากความร้อน จะทำให้สารโบท็อกสลายตัวเร็วในช่วงแรก และหากอยากให้โบท็อกอยู่ในผิวเราไปนาน ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงให้เป็นนิสัย เพราะนอกจากจะเป็นการป้องกันโบท็อกสลายแล้ว ยังเป็นการดูแลผิวพรรณตัวเองไปในตัวด้วย
  • หมั่นประคบหน้าเบา ๆ
    ควรประคบเย็นเป็นประจำ ด้วยการหาถุงเย็นที่ได้มาตรฐาน และทำความอาดมาอย่างดีประคบบริเวณคางเป็นเวลา 3 วัน หลังจากนั้นเปลี่ยนไปประคบร้อนด้วยถุงร้อนเป็นเวลาอีก 3 วัน โดยจุดที่ต้องประคบเป็นพิเศษ คือบริเวณข้างคางทั้งด้านซ้ายและขวา บริเวณด้านบนคางใต้ริมฝีปากล่าง และบริเวณใต้คาง
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดิ่มแอลกอฮอล์
    งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นเวลาขั้นต่ำ 1 วันก่อนฉีดโบท็อกเป็นเวลา 3-7 วัน เพื่อป้องกันการบวมจากแอลกอฮอล์

ร้อยไหม

ร้อยไหม เป็นตัวช่วยที่หนุ่มสาวในปัจจุบันนิยมกันไม่แพ้การทำโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์เลย ซึ่งจะช่วยให้ผิวเรายกกระชับมากขึ้น โดยการร้อยไหมนั้นเป็นการใช้ไหมละลายร้อยเข้าไปผิวหนังในบริเวณส่วนต่างๆ เพื่อให้ผิวยกกระชับขึ้น ซึ่งเส้นไหมจะมีตะขอเกี่ยวขนาดเล็กมาก สอดเข้าไปใต้ผิวหนังตะขอเหล่านั้นจะเกี่ยวเอาเนื้อเยื้อ และ กล้ามเนื้อให้ยกขึ้นตามแนวเส้นไหม ทำให้ผิวดูกระชับขึ้นนอกจากนี้การที่ตะขอบนเส้นไหมเกี่ยวเนื้อเยื่อด้านใน ถือเป็นการกระตุ้นร่างกายให้ผลิตคอลลาเจนมาซ่อมแซม และช่วยให้ผิวหน้ามีความยืดหยุ่นมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้การร้อยไหมไม่ควรทำกับคลินิกที่ไม่ได้คุณภาพอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเป็นการนำไหม หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย การทำหัตถกรรมเสริมความงามกับคลินิกไม่ได้มาตฐานอาจทำให้เกิดการแพ้ บวม อักเสบ หน้าเสียรูป และอาจร้ายแรงไปถึงการเสียชีวิตได้ในที่สุด แต่ For V Clinic ของเรา มีคุณหมอมากประสบการณ์ และการันตีความสามารถด้านการผ่าตัด หรือกระบวนการเสริมความงามครบวงจร ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพตามที่ต้องการแน่นอน



ข้อดีของการร้อยไหม

  • การร้อยไหมจะเห็นผลทันทีหลังทำ
  • ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าที่หย่อนคล้อย ซึ่งหลังจากการร้อยไหมสามารถอยู่ได้นาน
  • ทำให้รูปใบหน้าเรียวเป็นรูปอย่างที่ต้องการ ปรับรูปหน้าให้ V Shape ได้ตามกระแสนิยม
  • กระตุ้นให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนใต้ผิว ซึ่งจะทำให้ผิวเกิดการกระชับตึงขึ้นในทันที
  • ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผิวหน้าสุขภาพดีขึ้น
  • ทำให้ผิวเต่งตึงยกกระชับมากขึ้น และได้ผลต่อเนื่องนาน



ร้อยไหมทำส่วนไหนได้บ้าง

  • ร้อยไหมยกกระชับแนวกราม ขากรรไกร
  • ร้อยไหมยกกระชับแนวคิ้ว
  • ร้อยไหมยกกระชับพื้นที่ใต้ดวงตา
  • ร้อยไหมยกกระชับบริเวณหน้าผาก
  • ร้อยไหมยกกระชับแก้ม
  • ร้อยไหมยกกระชับบริเวณหน้าอก



การร้อยไหม มีไหมกี่รูปแบบ

  • เส้นไหมเรียบ (Mono threads)
    มีลักษณะเป็นเส้นเรียบ ส่วนใหญ่จะใช้ร้อยไหมชนิดนี้ บริเวณคอ หน้าฝาก และใต้ตา เส้นไหมเรียบจะช่วยให้ผิวหนังเต่งตึงแต่ไม่ได้ช่วยยกชั้นผิวหนัง
  • เส้นไหมเกลียว (Screw threads)
    เป็นเส้นไหมเส้นเดียวหรือสองเส้นเกลียวเข้าด้วยกัน เส้นไหมชนิดนี้จะช่วยเพิ่มปริมาตรบริเวณผิวหนังที่ยุบตัวหรือเป็นแอ่ง และให้ผลแข็งแรงกว่าไหมเส้นเรียบ ซึ่งเหมาะกับการยกชั้นผิวหนังที่หย่อนยาน
  • เส้นไหมที่มีเงี่ยง (Cog threads)
    เป็นเส้นไหมเส้นเดียวแต่มีเงี่ยงตลอดแนวไหม เพื่อทำหน้าที่ยึดเกาะด้านในชั้นผิวหนัง เงี่ยงจะทำหน้าที่คล้ายโครงสร้างที่จะช่วยยกเนื้อเยื่อหรือผิวหนังที่หย่อนยาน คอลลาเจนจะถูกกระตุ้นให้มีการสร้างขึ้นใหม่รอบเส้นไหมและบริเวณเงี่ยง เส้นไหมชนิดนี้เหมาะกับการยกกระชับบริเวณคาง ปรับรูปหน้าให้เรียว
  • เส้นไหมเรียบ (Mono threads)
    มีลักษณะเป็นเส้นเรียบ ส่วนใหญ่จะใช้ร้อยไหมชนิดนี้ บริเวณคอ หน้าฝาก และใต้ตา เส้นไหมเรียบจะช่วยให้ผิวหนังเต่งตึงแต่ไม่ได้ช่วยยกชั้นผิวหนัง



วิธีเตรียมตัวก่อนทำร้อยไหม

  • งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นเวลาขั้นต่ำ 1 วันก่อนร้อยไหม
  • ควรงดอาหารเสริม หรือวิตามินบำรุงเลือดทั้งหมด เพราะจะทำให้เลือดไหลเป็นจำนวนมากขณะทำการร้อยไหม
  • ควรแจ้งแพทย์ที่ปรึกษาก่อนผ่าตัด หากมีโรคประจำตัว
  • ควรล้างเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดใบหน้าก่อนพบแพทย์



วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดร้อยไหม

  • หลีกเลี่ยงการขยับหน้าเยอะในช่วง 3-5 วัน
    การขยับหน้าเยอะ ๆ หลังร้อยไหมอาจทำให้ไหมเลื่อน หรือไหมขาดได้ อาจส่งผลให้ประสิทธิภาพของการร้อยไหมลดน้อยลง ไปจนถึงการไม่ส่งผลใด ๆ เลย
  • หลีกเลี่ยงแหล่งความร้อนและแสงแดดจัด
    ไม่ควรนำใบหน้าไปอยู่ในบริเวณที่มีความร้อน เช่นเตาอาหารประเภทต่าง ๆ  หรือร้านหมูปิ้ง ไก่ปิ้งข้างทาง อีกทั้งยังไม่ควรออกแดดจัดเนื่องจากความร้อน จะทำให้สารโบท็อกสลายตัวเร็วในช่วงแรก และหากอยากให้โบท็อกอยู่ในผิวเราไปนาน ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงให้เป็นนิสัย เพราะนอกจากจะเป็นการป้องกันโบท็อกสลายแล้ว ยังเป็นการดูแลผิวพรรณตัวเองไปในตัวด้วย
  • หลีกเลี่ยงการเกา แกะ หรือกดหน้า
    หลังจากร้อยไหม จะมีอาการเจ็บปวด บวมแดงเล็กน้อยถึงปานกลางในช่วง 2-3 วันแรก ห้ามเกา แกะ หรือกดหน้า เพราะจะทำให้ไหมเคลื่อนหรือขาดได้ 
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดิ่มแอลกอฮอล์
    งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นเวลาขั้นต่ำ 1 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์เป็นเวลา 3-7 วัน เพื่อป้องกันการบวมจากแอลกอฮอล์ และทำให้ไหมเคลื่อนตัวหรือเสื่อมประสิทธิภาพ
Copyright © 2022 For V Clinic , All Rights Reserved.